วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2554

เเนะนำเทคนิคการเลือกผ้าม่านค่ะ

ผ้าม่าน เป็นอุปกรณ์ตกแต่งห้องที่ส่งผลต่อภาพรวมของห้องอย่างมาก จะมีเทคนิคเลือกอย่างไรให้กลมกลืนและสวยงามกับห้องของคุณกันนะค่ะ..><


การเลือกผ้าม่านจะต้องเลือก สไตล์ของการตกแต่งเสียก่อน จึงค่อยเลือกผ้าม่านที่เข้ากับ Style
การตกแต่งนั้นๆ  เช่น การตกแต่งบ้านสไตล์ Modern ก็อาจจะเน้นใช้ผ้าม่านที่ดูเรียบๆ เก๋ สีสัน ที่มีความคอนทราส์ กับสีอื่นๆ สูง เช่น การใช้สีดำ สี เทา สีขาว หรือสีสันจัดๆเฉาะจุด เป็นต้น
การตกแต่งบ้านสไตล์ Contempolary อาจจะใช้ผ้าม่านที่ดูเป็นธรรมชาติเช่นผ้าฝ้าย หรือผ้าใหม โดยปกติการตกแต่งบ้านสไตล์นี้มักจะใช้ผ้าเรียบๆ (ไม่มีลาย) แต่มีแท๊กเจอร์ มีเอกลักษณ์ในผิวของผ้า เช่น ผ้าลายเปลือกไม้ ผ้าฝ้ายลายเส้นด้ายขวาง หรือผ้าใหมแบบปมใหมธรรมชาติเป็นต้น
การตกแต่งบ้านสไตล์Classis การแต่งผ้าม่านสำหรับการตกแต่งแบบนี้อาจจะเน้นผ้าม่านให้มีความหรูหราขึ้นกว่าปกติ ซึ่งทำได้หลายวิธี โดยการทำผ้าม่านแบบหัวหลุยส์ หรือการใช้ผ้าม่านสีทอง เป็นต้น
เนื่องจากผ้าที่ทำผ้าม่านมีลักษณะของโครงสร้างผ้าที่หลากหลาย ผ้าบางชนิดทำผ้าม่านแบบลอนสวย ผ้าม่านบางชนิดทำผ้าม่านแบบพับสวย ซึ่งวิธีการดูว่าผ้าแบบใดเหมาะกับการทำม่านแบบใดนั้นใช้วิธีการสำผัสผ้าและลองจับทรงผ้าม่านแบบที่ต้องการดูว่า  ผ้าแบบนั้นน่าจะทำแบบที่ต้องการได้ดีหรือไม่
สีของผ้าม่าน โดยสีของผ้าม่านถือเป็นปัจจัยสำคัญมากที่จะทำให้ผ้าม่านออกมาสวยหรือไม่ ให้คุณเลือกสีของวัสดุตกแต่งต่างๆของบ้านหลักประมาณ 4 สี  อาจจะอยู่ในช่วง 3-5 สีก็ได้แต่ไม่ควรขาดและไม่ควรเกิน เพราะ ถ้าเราแต่งบ้านเพียง 2 สีบ้านจะดูจืด และจะทำให้เบื่อเร็ว หรือถ้าเราแต่งบ้านโดยใช้สี เกิน 5 สี อาจจะเยอะไปและรู้สึกว่า ลายตาได้ การเลือกสีหลัก 4 สีจะทำให้เรารู้สึกว่ามี Moving ของสี


 

ไอเดียตกเเต่งบ้านเเบบคนรุ่นใหม่ค่ะ

พูดคุยกับคนดังรุ่นใหม่ในวงการต่าง ๆ พวกเขามีแนวคิดอย่างไรกับการแต่งบ้าน...!!!




ม.ล.ทรงลักษณ์ สวัสดิวัตน์,ชนาทิพย์ จันทรุเบกษาและณัฏฐกรม์ ชุณหะวัณ ร่วมแชร์เทคนิคช็อปของแต่งบ้านอย่างชาญฉลาด เพื่อให้ได้ของถูกใจ ในราคาสุดคุ้ม ต้อนรับมหกรรมลดยกเมือง คุ้มเกินพิกัด สูงสุดถึง 80% ในงาน โฮมเวิร์ค แอนด์ เพาเวอร์บาย ซูเปอร์เซล 2011 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่าง 4-9 พฤษภาคมนี้
เฟรม-ม.ล.ทรงลักษณ์ สวัสดิวัตน์ ให้ความสำคัญกับ "ห้องนอน" เป็นพิเศษ แต่ทุกคืนเธอไม่เคยหลงลืมที่จะสวดมนต์ก่อนนอน เพื่อให้ธรรมะกล่อมเกลาจิตใจไม่ให้ฟุ้งฝันฟุ้งเฟ้อไปตามยุคสมัย ไอเดียตกแต่งห้องนอนของสาวร่างเล็กคนนี้เป็นสไตล์มินิมัล เรียบง่าย น้อยชิ้น โดยมีเทคนิคในการเลือกช็อปของตกแต่งห้องนอนแบบอดใจรอขอช็อป ของชิ้นใหญ่จากงานเอกซโปหรือมหกรรมซูเปอร์เซล ซึ่งเธอวางแผนคำนวณความคุ้มค่าไว้ก่อนเป็นอย่างดี เพื่อที่จะได้ที่นอนและเครื่องนอนที่มีคุณภาพ ในราคาไม่แพง 


 
ทิพย์-ชนาทิพย์ จันทรุเบกษาบอกว่าห้องครัวที่บ้าน เป็นห้องโปรดที่ให้ความสุขสร้างแรงบันดาลใจในการคิดค้นสูตรขนมอร่อยๆ เวลาว่างจากการทำขนมโฮมเมด เธอมักจะใช้เวลาไปกับการเลือกช็อปอุปกรณ์เครื่องครัวและเครื่องไฟฟ้า แต่ส่วนใหญ่จะหมายตาจับจองไว้ในใจก่อน พอได้ยินข่าวว่ามีงานเซลอย่าง โฮมเวิร์ค ซูเปอร์เซล ก็จะเตรียมตัวไปช็อปเลยทันที เพราะเป็นช่วงเวลาที่คุ้มค่ามาก
มิ้ค-ณัฏฐกรม์ ชุณหะวัณ ที่กลับจากต่างประเทศมาหมาดๆ ก่อนจะอุทิศตนไปเกณฑ์ทหารรับใช้ชาติมาได้ไม่นาน ชื่นชอบการดูหนัง ฟังเพลงเป็นชีวิตจิตใจ จึงสนุกกับการแต่งห้องโฮมเธียเตอร์ทั้งในห้อง นั่งเล่นและห้องนอนของตัวเอง มาเมืองไทยคราวนี้ ดูดีวีดี ดูหนังเยอะมาก และชอบไปอัพเดทเทรนด์เครื่องเสียงรุ่นใหม่ๆ กับครอบครัว เพราะได้แชร์ความคิดเห็นร่วมกัน โดยเฉพาะในงานมหกรรมลดราคา ยิ่งมีตัวเลือกของ โปรโมชั่นแต่ละแบรนด์มาให้ตัดสินใจเวลาได้ของถูกใจในราคาคุ้มค่า...จะยิ่ง ภูมิใจ

การตกเเต่งบ้านโดยใช้ไม้อัด...วีเนียร์ (Veneer)..ค่ะ

เราลองมาตกเเต่งบ้านโดยใช้ไม้อัดกันบ้างนะค่ะ

คงจะดีไม่น้อยนะคะถ้าพวกเรา จะสามารถทำของตกแต่งบ้านขึ้นเอง วันนี้จึงขอทำเทคนิคการทำของตกแต่บ้านจากไม้อัดมาฝากกันค่ะ ไม้อัดที่เลือกใช้นี้เราเรียกว่า วีเนียร์ (Veneer) ซึ่งเป็นศัพท์เทคนิคทางการของวัสดุลักษณะนี้ค่ะ วีเนียร์ไม้อัดนี้ก็มีหลายแบบให้เลือกต่างๆกัน ทั้งเนื้อไม้ สีไม้ ลวดลายไม้และความหนาของไม้ค่ะ วีเนียร์นี้คุณอาจหาซื้อได้ตามร้านขายวัสดุตกแต่งบ้านทั่วไป หรือร้านขายไม้บางร้านค่ะ หากใครงบมากสักหน่อยก็สามารถเลือกใช้ไม้นำเข้าที่มีเนื้อดีๆ เพื่อให้สามารถสร้างบรรยากาศอบอุ่นและสวยงามภายในห้องได้อย่างมากทีเดียวค่ะ หากใครไม่มีงบประมาณสำหรับงาน DIY ในส่วนนี้ก็อยากให้มาลองร่วมสนุกกัน โดยประยุกต์ใช้กระดาษลายไม้แทนได้ค่ะ ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านเครื่องเขียนทั่วไป 



ดอกไม้เต้นระบำ

 
 
เป็นงานชิ้นแรกที่คุณสามารถทำได้โดยง่ายในเวลาไม่ถึงชั่วโมงค่ะค่ะ ร่างภาพดอกไม้ในแบบที่คุณต้องการลงบนแผ่นกระดาษ จากนั้นใช้”สเปรย์กาวรุ่น75 ของยี่ห้อ 3M” สเปรย์ลงไปที่กระดาษและติดลงไปกับไม้คะ และใช้กรรไกรตัดไม้ออกตามแบบที่เราวาดไว้ จากนั้นก็ลอกกะดาษที่ร่างไว้ออก สเปรย์กาวรุ่น 75 นี้ทำให้เราสามารถลอกระดาษออกได้ภายหลังค่ะ เนื่องจากเป็นกาวติดชั่วคราวลอก (ออกและติดใหม่ได้หลายครั้งหรือลอกออกไปทิ้ง) สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายเครื่องเขียนชั้นนำทั่วไป
 
 
แบคกราวด์ตู้เก่า
 

ตู้ไม้เก่าผุ หรือลิ้นชักที่เสียแล้ว นำมาชุบชีวิตใหม่สำหรับตกแต่งห้องของเราได้ค่ะ ซื้อสีขาวกระป๋องเล็กมาทาเสียทุกด้าน และนำวีเนียร์ไม้อัดตัดขนาดพอดีกับผนังด้านในของตู้ แล้วยึดติดกับตู้ด้านในค่ะ อาจเพิ่มลูกเล่นเก๋ๆให้กับไม้อัด โดยการนำตัวปั๊ม(Stamper) น่ารักๆจุ่่มสีที่เหลือแล้วนำมาประทับลวดลายลงบนไม้อัดค่ะ เท่านี้ก็ได้ตู้ลอยสำหรับดิสเพลย์ที่เก๋ไก๋ไม่เหมือนใครแล้ว
 
 
 
ไม้เลื้อย

 
 
ของตกแต่งชิ้นนี้ให้อารมณ์ที่สนุกสนานสดใส ด้วยเพราะรูปทรงคล้ายกับกิ่วก้านสาขาของต้นไม้เลยค่ะ เลือกไม้วีเนียร์ที่บางและแข็งแรงพอจะดัดได้ มาตัดให้เป็นแถบที่มีความกว้าง 4 นิ้ว และนำมายึดเข้ากับผนังด้วยตัวยึดพลาสติก คุณสามารถทำออกมาได้หลายๆชิ้นและติดผนังหลายๆทิศทางตามต้องการ
 
 
 
 
แท่งไม้เอนกประสงค์

 
 
อีกไอเดียในการจัดระเบียบใบเสร็จ ใบปลิว ตั๋วหรือบัตรต่างๆ แทนที่เราจะเอามากองไว้เฉยๆก็นำมาเสียบไว้กับแท่งไม้นี้ได้ โดยวิธีการก็แสนจะง่าย ตัดไม้ออกเป็นแผ่นๆ จำนวน 6 แผ่นคล้ายกับทำกล่อง แล้วนำมาประกอบเข้าด้วยกัน เลือกใช้ยางรัดหรือริบบิ้นยืดสีที่คุณชอบ มาเป็นตัวรัดรอบแท่งไม้สำหรับเสียบบัตรเหล่านี้ละค่ะ หากใครมีกล่องสินค้าที่ไม่ใช้แล้ว จะนำมาห่อด้วยกระดาษลายไม้ก็ไม่ว่ากันค่ะ ก่อนจะห่ออย่าลืมถ่วงก้อนหินหรือของหนักๆ ไว้ภายในด้วย แท่งไม้จะได้ตั้งตรงไม่ล้มหรือร่วงหล่นได้ง่ายค่ะ 
 
 
 
 
แพทเทิร์นไม้ลายผนัง

 
 
อีกลูกเล่นหนึ่งที่นิชมใช้ในงานไม้ คือการต่อไม้เป็นแพทเทิร์นที่สลับทิศทางของแนวไม้อย่างมีศิลป์ วิธีทำก็แสนง่าย โดยการสร้างกรอบสี่เหลี่ยมขนาดต่างๆ กันเรียงเป็นลวดลายกราฟฟิกโดยใช้แท่งไม้ขนาดเล็ก (ขนาดหน้าตัดไม่เกิน 2 นิ้ว) และตัดวีเนียร์สำหรับแต่ละช่องให้มีขนาดพอดีกับกรอบช่อง อย่าลืมเลือกใช้วีเนียร์ที่มีลวดลายไม้ชัดเจน และจัดแนวของลายไม้สลับทิศทางต่างๆด้วยนะคะ เท่านี้ผนังเก่าๆ เรียบๆ ก็จะดูมีคุณค่าขึ้นมาทันทีเลยค่ะ
 
 
 
 
ศิลป์แห่งขาโต๊ะ

 
 
 
ไม้แผ่นก็สามารถสร้างลูกเล่นสวยๆให้กับขาโต๊ะได้นะคะ โต๊ะที่จะเลือกใช้เทคนิคนี้ควรจะเป็นโต๊ะที่ไม่ต้องรับน้ำหนักมาก เช่น โต๊ะกาแฟ หรือโต๊ะข้างโซฟาหรือเตียง ตัดไม้อัดให้โค้งเว้าตามลวดลายที่ต้องการ 2 ชิ้นต่อขาโต๊ะ 1 ข้าง ประกอบเข้ากับไม้ทาสีขาวหรือบอร์ดสีขาวขนาดเบาเพื่อใช้เป็นพื้นหน้าโต๊ะ เท่านี้ก็คุณก็จะมีโต๊ะสวยๆไว้ใช้เองแล้วค่ะ 
 
 
 
 
 
ช่อใบไม้
 


เสน่ห์ของวีเนียร์ไม้คือความหลากหลายของสีสันและลวดลายค่ะ ถ้าคุณสามารถหาไม้วีเนียร์ที่มีสีและลวดลายต่างๆกัน ลองนำมาตัดเป็นรูปร่างใบไม้ จัดให้เข้าช่อโดยแตะติดกันด้วยกาวนะจ๊ะ
วิธีตัด ค่อยๆตัดตามเส้นร่างอย่างระมัดระวัง เพื่อให้ได้รูปใบไม้ที่สวยงามไร้ตำหนิ เทคนิคคือตัดออกมาอย่างหยาบๆ เสียก่อน จากนั้นจึงค่อยใช้กรรไกรขริบเล็มให้เรียบร้อยอีกครั้งค่ะ

  
 
 
 
 
เตียงอันอบอุ่น
 

 
 
ไม่เพียงแต่สามารถทำของประดับเล็กๆน้อยๆนะคะ เพราะวีเนียร์นั้นสามารถทำของตกต่งที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ได้ด้วย ดังในภาพเป็นการใช้วีเนียร์ไม้ทำเป็นหัวเตียง ช่วยให้อารมณ์และบรรยากาศภายในห้องดูอบอุ่นและสบายตาค่ะ

วิธีทำ ก่อนอื่นคุณต้องวัดขนาดความกว้างของตัวเตียง และความสูงที่ต้องการเพื่อนำไปทำกรอบไม้เสียก่อน เลือกไม้ที่มีความสวยงามเป็นที่นิยมกันมากคือไม้เมเปิ้ล หรือคุณอาจเลือกใช้ไม้ชนิดอื่นที่มีสีซีดแทนได้ค่ะ จากนั้น นำแผ่นวีเนียร์มาตัดเป็นเส้นยาว โดยมีความกว้างขนาด 1 นิ้ว และ 2 นิ้ว ส่วนความยาวก็วัดตามขนาดของกรอบไม้ที่เราทำไว้เลย นำเส้นวีเนียร์ทั้งสองขนาดมาสานขัดกันโดยเว้นระยะห่างระหว่างแต่ละเส้นสักเล็กน้อยเพื่อให้เกิดช่องว่าง ดูโปร่งอย่างมีศิลป์ สุดท้ายจึงนำวีเนียร์ที่สานสำเร็จแล้วติดเข้าไปกับกรอบไม้ค่ะ
 
 
 
 
 
 
ลูกเล่นข้างเตียง

 
ส่งท้าย TIPS ของการ DIY วันนี้ด้วยการตกแต่งโต๊ะข้างหัวเตียง หากคุณมีโต๊ะที่ต้องการตกแต่งเพิ่มเติมก็ลองทำดูกันดีกว่าค่ะ วิธีทำก็แสนง่ายดาย เริ่มจากตัดวีเนียร์สีอ่อนให้ขนาดเท่ากันกับช่องว่างที่ต้องการ จากนั้นนำวีเนียร์รูปไบไม้มาติด จัดจังหวะของใบไม้ให้สวยงาม และเตรียมสีอะคริลิคสีขาว พู่กันขนาดเล็ก วาดรูปดอกไม้สักดอกลงไปเพื่อเติมความสดชื่น หลังจากสีแห้งแล้วคุณก็สามารถนำไปติดในบริเวณที่คุณต้องการได้เลยค่ะ  หากใครไม่มีเฟอร์นิเจอร์หรือบริเวณตกแต่ง ทางเราก็ขอแนะนำว่าคุณอาจนำมาทำเป็นของขวัญ หรือการ์ดสวยๆจากวีเนียร์ไม้ สำหรับเป็นของขวัญในเทศกาลต่างๆ ให้กับเพื่อนๆ หรือคนที่คุณรักก็ได้จ๊ะ นอกจากจะสวยงามแล้วยังเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางจิตใจอีกด้วย

เอารูปการเเต่งบ้านเเบบบ้านเดี่ยวมาฝากค่ะ

เริ่มจากบ้านเดี่ยว ไซค์เล็ก นะค่ะ

ห้องรับแขก น่ารัก พอดีๆ

ไซค์บอร์ด บาง สวย เฉียบ

ห้องครัวเล็กๆ น่ารักอีกเช่นกัน

เดินขึ้นชั้น 2 มุมนี้เล็กสมกับบ้าน

ห้องนอนใหญ่ อบอุ่นแบบเล็กๆ

ห้องนอนเล็กดูดี แบบเล็กๆ

วันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2554

ไอเดียเเต่งมุมพักผ่อนภายในบ้าน



 
        ในช่วงเวลาของการพักผ่อน แน่นอนว่าแต่ละคนจะต้องมีมุมส่วนตัว
เป็นมุมโปรดอยู่ที่ใดที่หนึ่งภายในบ้าน หากยังคิดไม่ออกว่าจะใช้มุมไหน
ก็มีวิธีง่ายๆ เนรมิตมุมพักผ่อนในบ้านที่ช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายยิ่งขึ้น
 

       1. สร้างบรรยากาศในห้องให้เป็นธรรมชาติ ด้วยการทาผนังเป็นสีขาว
 และทำพื้นหินขัดสีขาวที่ดูสบายตา ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้สีธรรมชาติที่ไม่ต้องทำสี
 หรือใช้ของตกแต่งที่ทำด้วยวัสดุโปร่งใส ทำให้ห้องดูโปร่งสบายตาน่าพักผ่อนตลอดเวลา

     
  2. เพิ่มความหวานให้บ้านไม้เก่า น่าพักผ่อนมากขึ้

น ด้วยการติดวอลล์เปเปอร์ลายดอกไม้แสนหวานบนฝ้าเพดาน
 เพื่อช่วยปกปิดความไม่เรียบร้อยของฝ้าเดิม และให้ความรู้สึกเหมือน
กับดอกไม้กำลังโปรยลงมา พร้อมทั้งใช้เฟอร์นิเจอร์หวายที่ดูเป็นกันเอง 
วางหมอนและผ้าปูโต๊ะลายดอกไม้สีสวย ก็ทำให้น่านั่งขึ้นเป็นกอง

       
3. กั้นห้องนั่งเล่นให้เป็นสัดส่วน ด้วยการออกแบบส่วนบนของผนัง

เป็นหน้าต่างกระจกบานหมุนที่สามารถพลิกเปิด – ปิดได้
 ช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดี และดูโปร่งขึ้นก็สามารถพักผ่อนได้อย่างไม่อึดอัด

      
 4. พักผ่อนในห้องนอนสไตล์ญี่ปุ่น ด้วยการยกระดับพื้นขึ้นมา 15 – 20 ซม. 

ปูพื้นด้วยเสื่อตาตามิที่สั่งทำมาเป็นแผ่นให้พอดีกับพื้นที่แล้ว
วางฟูกนอน กับพื้น ใช้หน้าต่างบานเกล็ดไม้ปรับแสงแทนผ้าม่าน
 ก็ให้ความรู้สึกเรียบง่ายและผ่อนคลายแบบเป็นธรรมชาติ
    

 
      5. พักผ่อนด้วยการอาบน้ำให้ชุ่มฉ่ำ ด้วยการทำหลังคาสกายไลท์
 ทำ Rain Shower ด้วยแผ่นอะคริลิกใสที่ทำเป็นกระบะ เจาะรูให้น้ำไหลลงมาเป็นสายฝน
 แคนั้นก็สามารถอาบน้ำใต้แสงแดดอุ่นๆ ได้อย่างสบายอารมณ์
พร้อมกรุพื้นและผนังด้วยไม้ธรรมชาติให้รู้สึกผ่อนคลายยิ่งขึ้น

      
6. ทำมุมเคาน์เตอร์บาร์ที่เน้นความโปร่งสบายไว้สังสรรค์
ด้วยการทำผนังกั้นห้องด้วยกระจกฝ้า ติดชั้นสำเร็จรูปไว้กับกรอบวงกบ
 (แต่ไม่ควรวางของหนัก) ให้มีระดับสูงต่ำต่างกันเพื่อความสวยงาม
 พร้อมทั้งทำเคาน์เตอร์ด้วยเหล็กกล่องและไม้อัดพ่นสีดำ ขึงลวดสลิงตกแต่งดูเท่ และโปร่งตา

    
  7. ดึงความสดชื่นมาไว้ในห้องนั่งเล่น ด้วยการทำมุมนั่งเล่น
ไว้ริมหน้าต่างกระจกแล้วปลูกไม้พุ่มริมผนังให้สูง 80 ซม.
 ก็สามารถมองเห็นต้นไม้สีเขียวสดชื่นจากภายในห้อง
 โดยไม่ต้องปลูกต้นไม้ในบ้านให้ลำบาก และยังดูโปร่งสบายตาอีกด้วย

 

      8. เพิ่มมุมน่ามองให้ห้องรับประทานอาหาร ด้วยการเปลี่ยนผนังทึบเป็นผนังกระจก
 แล้วทำแผงไม้ระแนงด้านนอกให้ห่างจากผนังอย่างน้อย 60 ซม.
 เพื่อให้สามารถเดินเข้าไปดูแลได้ พร้อมปลูกไม้เลื้อยและแขวนไม้ประดับให้ดูชุ่มชื่
น ก็ช่วยให้ดูสบายตาและยังคงรู้สึกเป็นส่วนตัวเหมือนเดิม

     
 9. ทำห้องเล่นพูล สำหรับคนรักการพักผ่อนด้วยการทำกิจกรรม
 โดยเตรียมห้องขนาด 5.30 x 7.00 ม. เพื่อให้เล่นได้สะดว
 หรือทำผนังห้องเป็นประตูบานเลื่อนที่สามารถเปิดได้กว้าง
 เพื่อขยายพื้นที่ห้องให้กว้างขึ้น แล้วยังสามารถปิดประตูไม่ให้รบกวนส่วนอื่นของบ้านได้ด้วย

     
10. ออกแบบหน้าบ้าน ให้เป็นมุมนั่งเล่นรับลมแบบเปิดโล่งไว้ริมสระว่ายน้ำ
ด้วยการเลือกใช้ เฟอร์นิเจอร์ที่ดูโปร่งน่านั่ง แล้วติดผ้าม่านสีขาว
โดยรอบเพื่อช่วยบังแสงแดดยามบ่าย และดูพลิ้วไหวให้ความรู้สึกเบาสบายยิ่งขึ้น

   
  11. เพิ่มความสดใสและความเข้มขรึม ด้วยการติดเฟรมภาพเพ้นท์ศิลปะ
ขนาดใหญ่โทนสีฟ้า และสีส้มบนผนัง ซึ่งออกแบบให้เลื่อนได้และใช้แทนประตูกั้นห้อง
 พร้อมแต่งห้องด้วยพื้นไม้สีเข้ม เฟอร์นิเจอร์หนัง และแชนเดอเลีย
ที่ผสมผสานทั้งสองอารมณ์ให้มีเสน่ห์น่าประทับใจ

 
    12.สร้างมุมพักผ่อนแบบเป็นกันเอง ด้วยการใช้เก้าอี้เปลแทนโซฟา
 และทำพื้นไม้ยกระดับสูง 40 ซม. วางเบาะรองนั่งแบบยาวที่ใช้ได้ทั้งนั่งและนอนเล่น
 พร้อมปูพรมนุ่มๆ ให้รู้สึกสบายเหมือนพักในบ้านตากอากาศ


18 สไตล์ห้องนั่งเล่น สวยและแปลก

18 สไตล์ห้องนั่งเล่น สวยและแปลก


จัดหนักห้องนั่งเล่นมาให้เลือกดูเป็นไอเดียแต่งบ้านกัน แต่ขอบอกว่ามีทั้งสวยและแปลก ใครถูกใจห้องสวย หรือห้องแปลกก็จัดไป!!

Colourful living room with patchwork chair ห้องนั่งเล่นสีสันกับเก้าอี้เย็บปะติดปะต่อกัน

Contemporary living room with panda art ห้องนั่งเล่นร่วมสมัยกับศิลปะหมีแพนด้า

Colourful living room 
ห้องนั่งเล่นสีสันสดใส

Bright red living room 
ห้องนั่งเล่นสีแดงสดใส


Living room with quirky accessories

Statement living room

Living room with oversized mirror 
ห้องนั่งเล่นพร้อมกระจกขนาดใหญ่

Tropical living room 
ห้องนั่งเล่นทรอปิคอล

Home cinema

Gothic living room with eye-popping fabrics 
ห้องนั่งเล่นโกธิคด้วยผ้า popping

Living room with bold feature wall

Moody living room with painted black doors 
ห้องนั่งเล่น Moody กับประตูสีดำ

Living room with stone-effect wallpaper 
ห้องนั่งเล่นพร้อมวอลล์เปเปอร์หิน

Zingy living room with lime green chair 
ห้องนั่งเล่น Zingy กับเก้าอี้สีเขียวมะนาว

Striking blue living room 
ห้องนั่งเล่นสีฟ้าโดดเด่น

Quirky living room light

Purple living room 
ห้องนั่งเล่นสีม่วง

Bold modern living room

โทนสีภายในบ้าน กับความรู้สึกทางจิตวิทยา


สีสันต่าง ๆ ภายในบ้านมีผลต่ออารมณ์ของความรู้สึกของเราได้จริงๆหรือ..><

         เรื่อง นี้มีข้อพิสูจน์ในเชิงวิทยาศาสตร์แล้วว่าเป็นความจริง 
ถามว่าสาเหตุอะไรจึงเป็นเช่นนั้น คำตอบก็คือ เพราะพฤติกรรมของคน
มีส่วนมาจากสภาพแวดล้อม ประสบการณ์และจิตวิทยา
บนพื้นฐานของผลกระทบจากสีที่เรารับเข้ามาจากภายนอกผ่าน
 ทางลูกนัยน์ตา เมื่อรับสีที่แตกต่างกัน การรับรู้จากสายตา
จะกระตุ้นปฏิกิริยาในสมองอย่างฉับพลัน จึงทำให้เกิดเป็นพฤติกรรมที่แตกต่างกันออกไป
ทีนี้ลองมาดูว่าเราจะมีวิธีการใช้สีในโทนต่างๆ ให้เหมาะกับการใช้งานได้อย่างไรบ้าง
เริ่มจากสีโทนเย็น อย่างเช่น ...สีฟ้าอ่อนและเขียวอ่อนจะช่วยสร้างบรรยากาศให้บ้านมีความเงียบสงบ
 เหมาะกับห้องที่ต้องการความสงบอย่างเช่นห้องนอน
ส่วนสีชมพูเหมาะสำหรับทาสีห้องของเด็กเพราะจะช่วยกระตุ้นความคิดริเริ่ม
สร้างสรรค์และความแข็งแรงของร่างกาย ถ้าเด็กที่ขี้ตื่น ตกใจง่ายควรใช้สีฟ้า
 จะทำให้เด็กรู้สึกสงบลง
*ถ้าเป็นผนังบ้านถ้าใช้สีขาวหรือสีโทนอ่อนเพียงสีเดียว 
จะช่วยให้ห้องขนาดเล็กดูกว้างขึ้นและให้ความรู้สึกเย็นลงในหน้าร้อนอีกด้วย
         สำหรับในห้องนั่งเล่นหรือห้องโฮมเธียร์เตอร์นั้น 
อาจใช้สีม่วงอ่อนซึ่งช่วยเร้าจินตนาการหรือสีเหลืองอ่อน
เพื่อกระตุ้นจิตใจให้สดชื่นและมีความกระตือรือร้น เพื่อให้คนในบ้านเกิดกิจกรรม
ร่วมกันมากขึ้นก็ได้
         สำหรับ สีโทนร้อน อย่างสีเข้มๆ ควรใช้ในห้องที่ต้องการบรรยากาศร่าเริงสดใส 
เช่นห้องที่เด็กๆ ชอบเล่นกันหรือห้องครัว แต่ควรต้องใช้สีกลางๆ
 ลดความเข้มของสีลงบ้าง เพราะจะไปกระตุ้นร่างกายให้ทำงานเร็วเกินไป
        ตัวอย่างเช่น ในร้านอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ด
 นิยมใช้สีแดงเป็นส่วนมากเพราะสีแดงมีผลที่ไปกระตุ้นต่อมน้ำลายทำให้เรารู้สึกหิว
และทำให้สายตาของเราล้า ทำให้เพิ่มความหิวมากยิ่งขึ้น
        แต่ร้านอาหารบางแห่งมักจะใช้
สีส้มหรือสีพีชอ่อนๆ
 กับผนังหรือผ้าม่านเพราะเป็นสีที่ให้ความรู้สึกต้อนรับขับสู้และสดใสขึ้น
        สีเหลืองเหมาะกับบ้านที่ต้องการความสดใส สว่างและเยือกเย็น
 เพราะเข้าได้กับวัสดุตกแต่งหลายชนิด ไม่ร้อนและไม่เย็นจนเกินไป
        สีส้มให้ ความรู้สึกอบอุ่นสดใสแต่ไม่ร้อนแรงจนเกินไป 
จึงนิยมใช้ในส่วนที่เป็นของตกแต่งหรือเฟอร์นิเจอร์ เช่น เก้าอี้ 
โซฟาที่เป็นผ้าหรือสิ่งทอรวมทั้งใช้เป็นสีของชุดเครื่องครัว
 สีที่เข้ากันกับสีส้มได้ดีคือสีขาวควันบุหรี่และสีเทาอ่อนๆ


การเลือกซื้อของแต่งบ้านให้ประหยัดค่ะ


การเลือกซื้อของแต่งบ้านยุคประหยัดค่ะ...><

การเลือกของแต่งบ้านยุคประหยัด
ในยุคเศรษฐกิจตกสะเก็ดอย่างทุกวันนี้ ค่าน้ำมันก็แพงขึ้นทุกวัน
 ทำให้ข้าวของอย่างอื่นแพงตามไปด้วย อยากจะหนีความวุ่นวายภายนอก
มาพักผ่อนอยู่กับบ้าน แต่ตามประสาคนรักบ้าน
 อยู่บ้านก็ต้องอยากแต่งบ้านเป็นธรรมดา 
งานนี้เรามีไอเดียในการแต่งบ้านแบบประหยัด
 ที่จะช่วยทำให้บ้านยังคงเป็นสถานที่พิเศษที่พร้อมจะรองรับคุณในทุกสภาวะเศรษฐกิจ

ประหยัดด้วยไอเดีย
1. เปลี่ยนสีบนผนัง การทาสีผนังบ้านใหม่ นับเป็นวิธีแต่งบ้านที่ง่าย 

ประหยัดและได้ผลดีที่สุดทางหนึ่ง ลงทุนแค่สีน้ำพลาสติกสีสวยๆ
 กับแปรงทาสีอีกสักอันมาจัดการเปลี่ยนผนังเก่า สีหมองในบ้านให้ดูสวยสดใสขึ้น
 เท่านี้ก็สามารถสร้างบรรยากาศแปลกใหม่ในบ้านได้ด้วยราคาแบบสบายกระเป๋า

2. เก็บสายไฟในท่อ การเดินสายไฟแบบฝังในผนังดูเรียบร้อยก็จริง

 แต่จะซ่อมแซมหรือเดินเพิ่มทั้งทีก็ต้องทุบผนัง เสียสตางค์และเสียเวลา
 ลองเปลี่ยนมาเดินลอยบนผนัง โดยร้อยใส่ท่อเหล็กแล้วอาจทาสีทับให้ดูเรียบร้อย 
ช่วยประหยัดงบประมาณในการดูแลรักษาและซ่อมแซม

3. ปรับแสงปรับอารมณ์ เปลี่ยนสีของหลอดฟลูออเรสเซนต์ทั่วๆ ไป 

โดยนำมาหุ้มด้วยปลอกพลาสติกหลากสีราคาเพียงปลอกละ 10 บาท 
ซึ่งหาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วไป

4. เปลี่ยนโครงสร้างบ้านเป็นเฟอร์นิเจอร์ ใช้ประโยชน์จากส่วนโครงสร้างของบ้าน

 เช่น ช่องว่างระหว่างเสา โดยติดแผ่นไม้ทำเป็นชั้นวางของ 
ติดประตูบานเลื่อนเพื่อกันฝุ่น หรือติดม่านกั้นแทนบานตู้ 
เท่ากับว่าเราประหยัดงบประมาณเงินค่าทำเฟอร์นิเจอร์ทั้งด้านหลังและด้านข้าง 
นอกจากนี้อาจก่อปูนสูงสัก 40 เซนติเมตร หรือติดแผ่นไม้วางเบาะเพื่อทำเป็นม้านั่งก็ได้ 
ช่วยประหยัดงบประมาณในการทำเฟอร์นิเจอร์ไปได้เยอะปรับเปลี่ยนได้

5. หนึ่งชิ้นหลายหน้าที่ เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เปลี่ยนหน้าที่การใช้งานได้อย่าง เช่น

 โซฟาเบดที่สามารถใช้นั่งหรือปรับเป็นเตียงนอนได้

6. ยืดได้หดได้ เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบที่สามารถปรับเปลี่ยนขนาด ย่อขนาด

 ยืดหด วางต่อหรือซ้อนชั้นกันได้ เพื่อรองรับการใช้งานในหลากหลายรูปแบบ
ตามความต้องการ ช่วยให้คุณประหยัดได้ทั้งงบประมาณและพื้นที่ใช้สอย

7. เคลื่อนที่ได้ สำหรับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นที่ไม่ได้ใช้งานตลอดเวลา

 การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก อย่างโต๊ะที่มีล้อเลื่อน
 จะช่วยให้เราสลับตำแหน่ง และการใช้งานได้ง่ายขึ้น เช่น 
โต๊ะรับประทานอาหารขนาดเล็ก เลื่อนไปใช้งานในครัว เมื่อต้องทำอาหารมื้อใหญ่ 
วิธีนี้ช่วยประหยัดไปได้ตั้งครึ่ง

แต่งบ้านอย่างมีแผน
8. วางแผนก่อนเพื่อเห็นภาพรวม เหมือนมืออาชีพที่ต้องเขียนแบบแปล

น ก่อนจะเริ่มตกแต่งคุณเองควรเขียนแบบแปลนหรือแผนการตกแต่งทั้งหมด
 เพื่อช่วยให้เห็นภาพรวมและรู้ว่าควรทำอะไรก่อนหลัง เช่น 
ควรทาสีผนังให้เรียบร้อยก่อนเก็บงานที่พื้น เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดจนต้องทำงานช้ำซ้อน
 ซึ่งส่งผลต่อสตางค์ในกระเป๋าของคุณอย่างแน่นอน

9. แต่งบ้านทีละระยะ การแต่งบ้านให้เสร็จลุล่วงในคราวเดียวเป็นเรื่องที่ดี 

แต่อาจทำให้กระเป๋าฉีกได้ ลองแบ่งงานตกแต่งบ้านทั้งหมด (ตามแผนที่คุณวางไว้)
 ออกเป็นช่วงๆ โดยให้ระยะแรกเป็นส่วนที่จำเป็นที่สุดก่อน 
แล้วดำเนินการทีละขึ้นตอน เมื่อระยะแรกจบอาจทั้งช่วงเก็บสตางค์สักพัก
 จากนั้นจึงเริ่มช่วงต่อไป กว่าจะเสร็จอาจใช้เวลาสักหน่อย
 แต่เพื่อไม่ให้คุณต้องรับภาระหนักเกินไป และยังเป็นการให้เวลาตัวคุณ
 สรรหาของที่ถูกใจจริงๆ อีกด้วย

10. ซื้อช่วงลดราคาถูกกว่าเยอะ ร้านขายของแต่งบ้านเกือบทุกร้าน

จะมีช่วงลดกระหน่ำประจำปี โดยเฉพาะร้านใหญ่ๆ อย่าง Modernform Index Habitat
 ซึ่งหากเราอดใจรอซื้อในช่วงลดราคาก็จะได้ของดีที่ราคาถูกกว่ามาก 
โดยเฉพาะของชิ้นใหญ่ ใช้งบฯเยอะอย่าง ที่นอน โซฟา เตียง หรือตู้เสื้อผ้า
 รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ด้วย

แต่คุณอาจต้องจดบันทึกสักหน่อยว่าร้านที่คุณไปเล็งๆ ของไว้นั้น

 เขาลดราคากันช่วงไหน เดือนไหนของปี บางทีลดปีละ 2 หน
 เพื่อปีถัดไปคุณจะได้วางแผนการช็อป (เตรียมเก็บเงิน) ได้พอดี
 และต้องตาดีพอจะเลือกของ คนละเวลาคนละสถานที่แล้วนำมาเข้าชุดกันได้

6...ไอเดียlสำหรแต่บเเต่งงบ้านแคบให้กว้างค่ะ


ไอเดียที่ 1 ไม่กั้นก็ไม่แคบ




สิ่งสำคัญในการจัดพื้นที่แคบคือพยายาม สร้างความต่อเนื่องภายในพื้นที่ไว้ให้มากที่สุด ไม่ควรกั้นผนังทึบ เพราะจะยิ่งทำให้บ้านดูแคบลงไปอีก หากต้องการแบ่งพื้นที่ใช้งานภายในห้องควรกั้นผนังแบบโปร่ง โดยการทำชั้นวางของ ใช้ฉากหรือม่านที่เลื่อนปิดเปิดได้ เพื่อปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้เหมาะสมกับการใช้งาน อีกวิธีหนึ่งคือการแบ่งพื้นที่ด้วยการเปลี่ยนสีหรือพื้นผิวของผนังและพื้น ซึ่งนอกจากจะช่วยแบ่งสัดส่วนของพื้นที่แล้ว ยังสามารถเปลี่ยนอารมณ์และเพิ่มมิติให้กับพื้นที่ได้อีกด้วย


ไอเดียที่ 2 หนึ่งชิ้นหลายหน้าที่







เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบอเนกประสงค์แทนการใช้เฟอร์นิเจอร์หลายชิ้นให้ เกะกะพื้นที่ และอีกวิธีหนึ่งคือการจัดวางตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์แบบธรรมดาให้ใช้งานได้หลาก หลาย เช่น วางโต๊ะกลางในตำแหน่งที่เป็นได้ทั้งโต๊ะรับประทานอาหาร โต๊ะนั่งเล่น และโต๊ะทำงาน แล้วแต่การใช้งานในแต่ละโอกาสและช่วงเวลา




 

ไอเดียที่ 3 ปรับเปลี่ยนประหยัดที่



การใช้เฟอร์นิเจอร์ที่สามารถยืด หด พับเก็บ หรือมีล้อเลื่อน จะช่วยประหยัดเนื้อที่ได้มาก เพราะทำให้ปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งานและเคลื่อนที่ไปใช้งานในส่วนต่าง ๆ ได้ อย่างสะดวก เมื่อไม่ใช้งานก็นำไปเก็บได้โดยไม่เปลืองเนื้อที่ ถ้าหากเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถเก็บแบบซ้อนชิ้นเล็กในชิ้นใหญ่ หรือถอดประกอบแยกส่วนได้ด้วยจะยิ่งช่วยประหยัดพื้นที่ได้มากขึ้นด้วย
ไอเดียที่ 4 บิลท์อินช่วยคุณได้






แม้ว่าการทำเฟอร์นิเจอร์บิลท์อินจะทำให้เสียพื้นที่ไปบางส่วน แต่ก็เป็นวิธีที่ดีในการจัดการกับพื้นที่ที่มีอยู่จำกัดให้เป็นประโยชน์และ ตรงกับความต้องการของคุณได้ดีกว่าการใช้เฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัว เพราะสามารถออกแบบให้มีขนาดพอดี กับข้าวของเครื่องใช้ และช่วยให้การเก็บของเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้นด้วย

 
ไอเดียที่ 5 ติดผนังเข้าไว้




หากบ้านของคุณมีพื้นที่ไม่เพียงพอที่จะวางข้าวของที่เพิ่มจำนวนขึ้น เรื่อย ๆ คุณสามารถเพิ่มพื้นที่ใช้สอยด้วยการใช้ประโยชน์จากที่ว่างทางแนวตั้ง ไม่ว่าจะทำชั้น หรือราว ที่สามารถยกข้าวของของคุณขึ้นจากพื้นไปลอยอยู่เหนือหัว หรือติดอยู่บนผนังให้มากที่สุด แล้วคุณจะพบว่าภายในบ้านยังเหลือพื้นที่ว่างให้ใช้ได้อีกมากมาย ตั้งแต่พื้นไปจนถึงฝ้าเพดาน
 
ไอเดียที่ 6 เทคนิคลวงตา


 





ใช้องค์ประกอบพื้นฐานในการออกแบบ เช่น เส้น สี แสง เงา และผิวสัมผัส มาตกแต่งบ้านเพื่อช่วยหลอกตาให้ดูกว้างขึ้น เช่น การใช้เส้นนอนเพื่อยืดให้ห้องดูยาวขึ้น การเปิดช่องแสงเพื่อเชื่อมต่อกับพื้นที่ภายนอก การใช้วัสดุผิวมันวาว เช่น กระจกหรือสเตนเลส สร้างเงาสะท้อนเพิ่มมิติให้กับพื้นที่ การใช้เฟอร์นิเจอร์แบบโปร่งบาง ทำให้ห้องดูโล่ง ไม่ทึบตัน การใช้สีอ่อน ๆ หรือการจัดแสงไฟให้ห้องดูสว่างขึ้น และวิธีอื่น ๆ อีกมากมายที่สามารถมาประยุกต์ให้เข้ากับความต้องการใช้สอยและ สไตล์การตกแต่งบ้านของคุณ